การเลือกซื้อ ไมค์ประชุม

การทำงานในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่หรือเล็ก คงหลีกเลี่ยงการประชุมหารือกันไม่ได้อย่างแน่นอน ในอดีตหากคุณเป็นองค์กรขนาดเล็ก การพูดกันด้วยปากเปล่า ก็คงเพียงพอแล้ว แต่หากเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีผู้เข้าร่วมประชุมมากการที่จะพูดให้ทุกคนได้ยินชัดเจนย่อมเป็นไปได้ยาก และเพื่อให้เสียงได้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ จึงเกิดไมโครโฟนที่ใช้สำหรับงานประชุมโดยเฉพาะ เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับการประชุมขนาดใหญ่ เช่น การประชุมรัฐสภาเป็นต้น แต่ในปัจจุบัน จากภาวะ โรคระบาด โควิด 19 การติดต่อสื่อสาร ต้องมีระยะห่างมากขึ้น ไมค์ประชุม จึงถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญในสภาวะการเช่นนี้ ไม่ว่า จะเป็น การประชุมในองค์กรทุกขนาด หรือแม้แต่ การประชุมผ่าน Video Conference เป็นต้น


ชนิดของไมค์ประชุม

   ก่อนอื่นเราควรทราบก่อนว่าไมค์ประชุมมีกี่ชนิด และเหมาะกับการใช้งานอย่างไรบ้าง   เราสามารถแบ่ง ชนิดของไมค์ประชุมโดยใช้เกณฑ์ในการแบ่งได้หลายอย่าง

  1. ระบบ ในอดีตไมค์ประชุมสามารถแยกออกได้เป็น 2 ระบบคือระบบ อนาล็อก และ ดิจิตอล โดยในตอนเริ่มแรกยังคงเป็นแบบไมค์ชนิดใช้สาย โดย 2 ระบบนี้มีความแต่งต่างกันที่ การส่งสัญญาณเสียงเป็น แต่ก็พูดได้ว่าความแตกต่างของเสียงแทบจะไม่ต่างกันมาก แต่ที่ต่างกันอย่างชัดเจน คือการระบุตำแหน่งของไมโครโฟนแต่ละตัว ถ้าเป็นอนาล็อกจะไม่สามารถระบุได้ว่าไมค์ทำงาน ณ ขณะนั้นหรือพูดง่ายๆ ในระบบดิจิตอล เราสามารถระบุ IP ที่เฉพาะของแต่ละไมค์ได้ ทำให้ระบบดิจิตอล สามารถเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงาน เช่น ระบบ จัดคิวของไมค์ และบางรุ่นสามารถใช้เพื่ออ้างอิงในการควบคุมการทำงานของกล้องวีดีโอ เพื่อให้กล้องหันไปหาไมค์ในตำแหน่งนั้นได้เป็นต้น เราจะเห็นว่าระบบดิจิตอลมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายกว่า แต่นั่นก็หมายถึงราคาที่สูงกว่าระบบอนาล็อก ปัจจุบันไมค์ส่วนใหญ่จะเป็นระบบดิจิตอลเกือบทั้งหมด แต่ยังคงมีบางยี่ห้อที่ยังใช้ระบบอนาล็อกอยู่
  2. พื้นที่ใช้งาน ห้องประชุมบางที่อาจไม่ได้มีการวางตำแหน่งโต๊ะประชุมที่แน่นอน อาจมีการปรับเปลี่ยนแล้วแต่โอกาสในการใช้งานการเลือกไมค์โดยคำนึงถึงตามพื้นที่เราสามารถเลือกจากการเชื่อมต่อของไมด์โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบคือ แบบมีสายกับแบบไร้สาย หากห้องประชุมของเราไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายหรือยกเก็บ แบบนี้เราสามารถใช้ได้ทั้งระบบมีสายหรือไร้สายก็ได้ ถ้าไม่ติดเรื่องงบประมาณเพราะระบบไร้สายมักจะมีราคาสูงกว่าระบบมีสาย 2-3 เท่าเลยทีเดียว แต่หากจำเป็นที่จะต้องใช้ระบบไร้สาย ในระบบไร้สายเองก็ยังสามารแยกย่อยได้เป็น 2 แบบ คือแบบมีลำโพงในตัวกับแบบไม่มีลำโพงในตัว ในแบบที่ไม่มีลำโพงในตัวต้องมีเครื่องขยายเสียงและลำโพงช่วยต่างหาก แต่งบประมาณก็จะถูกกว่าไมค์ประชุมไร้สายที่มีลำโพงในตัวอยู่มาก

 

การเลือกซื้อต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

  1. งบประมาณ ส่วนนี้จะทำให้เราตัดสินใจได้ว่าจะใช้ระบบมีสายหรือไร้สาย
  2. การใช้งาน ถ้าเน้นที่การเคลื่อนย้ายต้องพุ่งไปที่แบบไร้สาย แต่หากติดปัญหาเรื่องงบประมาณอาจจะเลือกไมค์ประชุมไร้สายแบบที่ไม่มีลำโพงในตัว และถ้าเป็นรุ่นที่ไมค์ประธานตัดเสียงไม่ได้ราคาก็จะถูกลงมาก ไมค์ประชุมลักษณะหลังนี้นิยมใช้ในการประชุม video - conference กันมากขึ้นในปัจจุบัน
Visitors: 590,646